วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

หนองคาย - เริ่มแล้วภัยแล้งที่หนองคาย เมื่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดลง จนชาวบ้านทั้งไทย - ลาว สามารถเดินข้ามไปมาได้


     สถานการณ์ภัยแล้งที่บ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ. หนองคาย  ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง ขณะนี้ปรากฏว่าปริมาณน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็วจนแห้งขอด จนชาวบ้านทั้งไทย - ลาว สามารถเดินจากตลิ่งแม่น้ำโขงลงไปยังดอนชิงชู้  ที่เป็นเกาะดอนอยู่กลางน้ำโขงได้  โดยชาวบ้านบ้านหม้อบอกว่า ปีนี้น้ำโขงลดลงเร็วกว่าทุกปี เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา น้ำโขงจะเริ่มลดลงในช่วงเดือนเมษายน แต่มาปีนี้น้ำโขงลดปริมาณลงตั้งแต่เดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าในน้ำโขงฝั่งไทยและฝั่งลาว ที่อยู่ตรงข้ามกับอำเภอศรีเชียงใหม่ , อำเภอท่าบ่อ และอำเภอเมือง ของจังหวัดหนองคาย มีหาดเกิดขึ้นในหลายจุด บางจุดยาวนับกิโลเมตร ทำให้เกษตรกรที่ทำการเกษตรติดริมฝั่งแม่น้ำโขงเดือดร้อนอย่างหนัก เกษตรกรบางรายต้องลงทุนต่อท่อสูบน้ำยาว 100 เมตร เพื่อสูบน้ำเลี้ยงพืชเกษตรในสวน  ขณะที่เกษตรกรบางรายต้องหันมาใช้น้ำใต้ดิน แทนแหล่งน้ำธรรมชาติ .



อภิชาติ แสงรุ่ง ข่าว NC NEWS ท่าบ่อ

หนองคาย - เขื่อนห้วยโมง เร่งขุดร่องน้ำและเดินเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือชาวนา เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ให้มีน้ำล่อเลี้ยงต้นข้าว ขณะที่ ผอ.เขื่อนห้วยโมง วอนชาวนาช่วยกันประหยัดน้ำ ถ้าเป็นไปได้อย่าทำนาเพิ่ม


     ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำห้วยโมง กรมชลประทาน อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  ได้เร่งทำการขุดร่องน้ำบริเวณหน้าเขื่อนห้วยโมง เพื่อเปิดทางน้ำจากแม่น้ำโขง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง ทำการสูบน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นสู่ลำน้ำโมง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ที่เริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปัง ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะเริ่มทำการเพาะปลูกข้าวอายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ และต้องการน้ำมาก และแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ และภัยแล้ง  โดยจะทำการสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ตลอดจนถึงเดือน มีนาคม 2556 ซึ่งต้องใช้น้ำจากแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังมีเหลือพอ เนื่องจากได้รับการระบายน้ำจากเขื่อนของประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้มีน้ำพอสำหรับการทำการเกษตร ตามแนวของลำน้ำห้วยโมง

     นายประสงค์ ผ่องสวัสดิ์  ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำห้วยโมง กล่าวว่า ปัจจุบันได้ทำการสูบน้ำจากแม่น้ำโขงเข้าเก็บไว้ในลำน้ำห้วยโมงเพิ่มเติม ให้พอเพียงกับที่ต้องการใช้ของเกษตรกร ทั้งอุปโภค บริโภค สำหรับปริมาณน้ำที่สูบเข้าลำห้วยโมงต่อวัน  อยู่ประมาณ 2 แสนคิวต่อวัน  ปริมาณการใช้น้ำของเกษตรกรในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าบ่อ , อ.ศรีเชียงใหม่ และ อ.โพธิ์ตาก มีปริมาณการใช้น้ำตกที่ประมาณ 1 แสน 2 หมื่นคิวต่อวัน ซึ่งเป็นการใช้น้ำที่มากพอสมควร  ปัจจุบันน้ำในแม่น้ำโขงลดปริมาณลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทำการเร่งสูบน้ำเพื่อนำน้ำเข้าไปเก็บไว้ให้เพียงพอกับการเกษตรอีก 3 เดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้  จนกว่าข้าวจะตั้งท้องและออกรวง
     นายประสงค์ ผ่องสวัสดิ์  ยังได้กล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงปัจจุบันยังคงไม่ต้องเป็นห่วง ทางเขื่อนห้วยโมงยังสูบน้ำได้ทันในการเก็บกัก  และเท่าที่สำรวจพื้นที่ในปัจจุบัน จะเห็นว่าเกษตรกรได้เปิดพื้นที่การทำนาเพิ่มขึ้น  จากแผนที่วางไว้ปีนี้ประมาณ 24,000 ไร่ จากการสำรวจปัจจุบันมีการใช้น้ำทำการเกษตรกว่า 27,000 ไร่ เพิ่มมากขึ้นกว่าแผนที่วางไว้  ซึ่งอาจจะทำให้น้ำไม่พอเพียงในส่วนที่เพิ่มขึ้น  ก็ขอร้องให้ชาวเกษตรกรอย่าเปิดพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่ม โดยเฉพาะการทำนาให้คงพื้นที่ให้อยู่อย่างเดิม ทางเขื่อนห้วยโมงก็จะพยายามรักษาให้มีน้ำอย่างพอเพียงต่อการเกษตร และขอให้ช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำให้ได้อย่างมีประโยชน์และคุ้มค้าสูงสุด.
อภิชาติ แสงรุ่ง ข่าว NC News ท่าบ่อ

 

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ได้ฝึกอบรมการทำปุ๋ยชีวภาพสู่วิถีพอเพียง สอนเกษตรกรให้พึ่งตนเอง

     เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (14 ธันวาคม 2555) ที่ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ บ้านหม้อหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย พันเอกธวัชชัย ดะนุดิษฐ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 เปิดการฝึกอบรมการทำปุ๋ยหมักชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์น้ำ  ให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่บ้านหม้อ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหม้อ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร  เพื่อเป็นการพัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ การสนับสนุนให้เกษตรกรรู้จักพึ่งพาตนเองในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และสารอินทรีย์ใช้เองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง  อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยการจัดฝึกอบรมเพื่อเป็นการให้ความรู้แก่เกษตรกรในรูปแบบต่างๆ ทั้งการสาธิต การอบรมเกษตรกร รวมทั้งการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตพืชเกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์อินทรีย์ และประมงอินทรีย์ เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
      ในปีงบประมาณ 2555 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ทำการมอบอาคารโรงปุ๋ยและอุปกรณ์ในหารผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ ภายในบริเวณศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ ให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายบ้านหม้อ หมู่ที่ 7  หลังจากนั้นก็ได้มีการติดตามการดำเนินงานของโครงการฯ  ผลปรากฏว่า เกษตรกรยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ จึงได้มีการจัดฝึกอบรมขึ้น โดยได้ทำการอบรมให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ซึ่งผลตอบรับมีเกษตรกรได้ให้ความสนใจกันเป็นอย่างดี  ทั้งนี้ ยังได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลุ่มปุ๋ยอินทรีย์บ้านหม้อ หมู่ที่ 7 เพื่อเป็นการพัฒนาในการผลิตปุ๋ยชีวภาพสู่ตลาดส่งเสริมรายได้เข้ากลุ่ม โดยมีนายสมพงษ์ อินทะเดช เป็นประธานกลุ่ม   
      พันเอกธวัชชัย ดะนุดิษฐ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25  กล่าวว่า  การพัฒนาเกษตรอินทรีย์เป็นภารกิจที่สำคัญประการหนึ่ง  และถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ชาติภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และนับว่าเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย  ในการผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ในอนาคต นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกษตรกรลดการใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรที่มีราคาแพง  และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
      ด้วยความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ดังกล่าว ทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้คิดหาวิธีให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมี โดยมีการส่งเสริมอบรมให้ความรู้ตลอดจนให้ทราบถึงพิษภัยของปุ๋ยเคมี  จึงจัดทำการฝึกอบรมการทำปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพแก่เกษตรกรหมู่บ้านเป้าหมายในพื้นที่บ้านหม้อ หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ ในการทำปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบการผสมการอัดเม็ด และการนำไปใช้ ตลอดจนรู้จักการดำเนินชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง ซึ่งก็มีเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมฝึกอบรมครั้งนี้ จำนวน 30 คน.

อภิชาติ แสงรุ่ง ข่าว NC NEWS ท่าบ่อ รายงาน